อยากฟ้องหย่าทำอย่างไร

เอกสารที่ใช้ในการฟ้องหย่าต่อศาลแบบเข้าใจง่ายๆว่าหากสามีภริยาที่จดทะเบียนสมรสกันนั้นไม่อาจจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันต่อไปได้แล้ว คู่สมรสสามารถที่จะฟ้องหย่าต่อศาลได้โดยศาลที่จะยื่นฟ้องนั้นคือศาลเยาวชนและครอบครัวของแต่ละท้องที่ซึ่งมีอยู่ทุกจังหวัด แต่คู่สมรสจะต้องมีเหตุหย่าตามที่กฎหมายกำหนดก่อนจึงจะสามารถฟ้องหย่าต่อศาลได้ โดยคู่สมรสจะต้องเตรียมเอกสารในการฟ้องหย่าดังต่อไปนี้

1.สำเนาใบสำคัญการสมรส

2.สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของคู่สมรส

3.หากมีบุตรผู้เยาว์ร่วมกันใช้สำเนาใบเกิดบุตรผู้เยาว์และสำเนาทะเบียนบ้านของบุตรผู้เยาว์

4.หากบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมีการเปลี่ยนชื่อตัวหรือชื่อสกุลใช้เอกสารการเปลี่ยนชื่อตัวหรือชื่อสกุลด้วย

5.หลักฐานที่เป็นเหตุในการฟ้องหย่าต่อศาล เช่น คู่สมรสนอกใจอีกฝ่ายประพฤติผิดในทำนองชู้สาวหรือเกี่ยวกับการนอกใจคู่สมรส หรือหลักฐานที่คู่สมรสที่คู่สมรสประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงอาจจะเป็นความผิดทางอาญาหรือไม่ก็ได้ หลักฐานการสมัครใจแยกทางกันทั้งสองฝ่ายเกินสามปี หลักฐานที่คู่สมรสเลี้ยงดูบุคคลอื่น หลักฐานการตรวจร่างการและบันทึกประจำวันที่คู่สมรสถูกอีกฝ่ายทำร้ายร่างกาย หลักฐานที่คู่สมรสหมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุพการีของอีกฝ่ายหนึ่ง หลักฐานการที่คู่สมรสทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไปเกินหนึ่งปี โดยไม่มีการติดต่อกันอีก หลักฐานการที่คู่สมรสไม่อุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งจะต้องร้ายแรงถึงขนาดอีกฝ่ายได้รับความเดือนร้อนในการใช้ชีวิตอยู่ หลักฐานในการที่คู่สมรสกระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นคู่สมรสที่ทำให้ไม่อาจอยู่ร่วมกันอย่างคู่สมรสกันได้ต่อไป หลักฐานการที่คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งวิกลจริตตลอดมาเกินสามปีถ้าการวิกลจริตนั้นมีลักษณะที่จะหายยากและอีกฝ่ายไม่อาจจะทนอยู่ร่วมกันได้ หลักฐานที่คู่สมรสทำทัณฑ์บนไว้ต่อกันแล้วอีกฝ่ายยังกระทำผิดทัณฑ์บนที่ตกลงกันไว้ หลักฐานที่คู่สมรสเป็นโรคติดต่ออย่างร้ายแรงที่อาจเป็นภัยแก่อีกฝ่านหนึ่งและมีลักษณะที่จะหายได้ หลักฐานที่คู่สมรสอีกฝ่ายมีสภาพแห่งกายที่ไม่อาจร่วมประเวณีหรือไม่อาจกระทำการหรือสนองความใคร่ของอีกฝ่ายหนึ่งได้ เป็นต้น

เหตุที่จะฟ้องหย่า มี 12 ประการ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516 ดังนี้ ที่แก้ไขใหม่ ปี พ.ศ.2567 เพื่อให้สอดคล้องกับ 

(1) คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันคู่สมรส เป็นชู้หรือมีชู้ร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ หรือ กระทำกับผู้อื่นหรือยอมรับการกระทำของผู้อื่นเพื่อสนองความใคร่ของตนหรือของผู้อื่นเป็นอาจิณ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

(2) คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งประพฤติชั่ว ไม่ว่าความประพฤติชั่วนั้นจะเป็นความผิดอาญาหรือไม่ ถ้าเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่ง

(ก) ได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรง

(ข) ได้รับความดูถูกเกลียดชังเพราะเหตุที่คงเป็นคู่สมรสของฝ่ายที่ประพฤติชั่วอยู่ต่อไป หรือ

(ค) ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินควร ในเมื่อเอาสภาพฐานะ และความเป็นอยู่ร่วมกันฉันคู่สมรสมาคำนึงประกอบ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้

(3) คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำร้าย หรือทรมานร่างกายหรือจิตใจ หรือหมิ่นประมาท หรือเหยียดหยามอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุพการีของอีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ ถ้าเป็นการร้ายแรง อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้

(4) คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจงใจละทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไปเกินหนึ่งปี อีกฝ่ายหนึ่ง นั้นฟ้องหย่าได้

(4/1) คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และได้ถูกจำคุกเกินหนึ่งปีในความผิดที่อีกฝ่ายหนึ่งมิได้มีส่วนก่อให้เกิดการกระทำความผิด หรือยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้นด้วย และการเป็นคู่สมรสกันต่อไปจะเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินควร อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้

(4/2) คู่สมรสสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันคู่สมรสได้โดยปกติสุขตลอดมาเกินสามปี หรือแยกกันอยู่ตามคำสั่งของศาลเป็นเวลาเกินสามปี ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

(5) คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ หรือไปจากภูมิลำเนา หรือถิ่นที่อยู่เป็นเวลาเกินสามปี โดยไม่มีใครทราบแน่ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

(6) คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งตามสมควร หรือทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นคู่สมรสอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ถ้าการกระทำนั้นถึงขนาดที่อีกฝ่ายหนึ่งเดือดร้อนเกินควรในเมื่อเอาสภาพ ฐานะ และความเป็นอยู่ร่วมกันฉันคู่สมรสมาคำนึงประกอบ อีกฝ่าย หนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้

(7) คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งวิกลจริตตลอดมาเกินสามปี และความวิกลจริตนั้นมี ลักษณะยากจะหายได้ กับทั้งความวิกลจริตถึงขนาดที่จะทนอยู่ร่วมกัน ฉันสามีภริยาต่อไปไม่ได้ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

(8) คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดทัณฑ์บนที่ทำให้ไว้เป็นหนังสือในเรื่องความประพฤติอีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

(9) คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นโรคติดต่ออย่างร้ายแรงอันอาจเป็นภัยแก่อีกฝ่ายหนึ่งและโรคมีลักษณะเรื้อรังไม่มีทางที่จะหายได้ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้

(10) คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีสภาพแห่งกายทำให้ไม่อาจร่วมประเวณีหรือไม่อาจกระทำการหรือยอมรับการกระทำเพื่อสนองความใคร่ของอีกฝ่ายหนึ่งได้ตลอดกาล อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

 

ทั้งนี้ แนะนำให้โทรมาปรึกษาสอบข้อเท็จจริงจากทนายความว่ากรณีของท่านสามารถที่จะฟ้องหย่าต่อศาลได้หรือไม่ โดยสามารถโทรมาได้ทันทีสายด่วน ทนายภานุรุจ โทร.0863597156, 0959423666  หรือไลน์ 0863597156 ยินดีให้บริการครับ 

Visitors: 199,310